เมนู

ถึงความไม่มี มีอันไม่เกิดอีกต่อไปเป็นธรรมดา เพราะอวิชชาดับด้วยสำรอก
โดยไม่มีเหลือ.
[135] ดูก่อนภิกษุ ทิฏฐิไม่ว่าชนิดใดชนิดหนึ่ง ที่เป็นข้าศึก
อันบุคคลเสพผิด ส่ายหาไปว่า ภพเป็นไฉน และภพนี้เป็นของใคร หรือ
ว่าภพเป็นอย่างอื่น และภพนี้เป็นของผู้อื่น ว่าชีพก็อันนั้น สรีระก็อันนั้น
หรือว่าชีพอย่างหนึ่ง สรีระอย่างหนึ่ง ทิฏฐิเหล่านั้นทั้งสิ้น อันอริยสาวก
นั้นละได้แล้ว ตัดรากขาดแล้ว กระทำให้เป็นดังตาลยอดด้วน ถึงความ
ไม่มี มีอันไม่เกิดอีกต่อไปเป็นธรรมดา เพราะอวิชชาดับด้วยสำรอกโดย
ไม่เหลือ. . . อุปาทานเป็นไฉน. . .ตัณหาเป็นไฉน. . .เวทนาเป็นไฉน. . .
ผัสสะเป็นไฉน . . .สฬายตนะเป็นไฉน. . . นามรูปเป็นไฉน . . .วิญญาณ
เป็นไฉน. . .
[136] ดูก่อนภิกษุ ทิฏฐิไม่ว่าชนิดใดชนิดหนึ่ง ที่เป็นข้าศึก อัน
บุคคลเสพผิด ส่ายหาไปว่า สังขารเป็นไฉน และสังขารนี้เป็นของใคร หรือ
ว่าสังขารเป็นอย่างอื่น และสังขารนี้เป็นของผู้อื่น ว่าชีพก็อันนั้น สรีระ
ก็อันนั้น หรือว่าชีพอย่างหนึ่ง สรีระอย่างหนึ่ง ทิฏฐิเหล่านั้นทั้งสิ้น
อันอริยสาวกนั้นละได้แล้ว ตัดรากขาดแล้ว กระทำให้เป็นดังตาลยอด
ด้วน ถึงความไม่มี มีอันไม่เกิดอีกต่อไปเป็นธรรมดา เพราะอวิชชาดับ
ด้วยสำรอกโดยไม่เหลือ.
จบปฐมอวิชชาปัจจยสูตรที่ 5

อรรถกถาปฐมอวิชชาปัจจยสูตรที่ 5



พึงทราบวินิจฉัยในอวิชชาปัจจยสูตรที่ 5 ต่อไป.